ราวกันตก มีกี่แบบ? เลือกแบบไหนให้เหมาะ?

Last updated: 24 Apr 2025  |  22 Views  | 

ราวกันตก

ราวกันตกเป็นองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบอาคารที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสวยงาม แต่ด้วยรูปแบบและวัสดุที่หลากหลาย การเลือกราวกันตกให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาให้ดี ไม่ว่าจะเป็นราวกันตกกระจกที่ให้ความโปร่งโล่ง ราวกันตกไม้ที่ให้ความอบอุ่น หรือราวกันตกเหล็กที่ให้ความแข็งแรง ทนทาน Wasuwat จะพาคุณไปทำความรู้จักราวกันตกและการเลือกให้ตอบโจทย์

ทำความรู้จักราวกันตก

ราวกันตก (Railing) คือโครงสร้างที่ติดตั้งไว้ตามระเบียง บันได หรือพื้นที่ต่างระดับ เพื่อป้องกันการพลัดตกและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน นอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว ราวกันตกรุ่นใหม่ยังถูกออกแบบให้เข้ากับสไตล์ของอาคารและบ้านได้อย่างลงตัว วัสดุที่ใช้ทำราวกันตกมีหลายประเภท เช่น กระจก ไม้ เหล็ก อลูมิเนียม และสแตนเลส ซึ่งแต่ละแบบมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปทั้งในด้านความแข็งแรงและความสวยงาม

 

 

ความสำคัญของราวกันตก

ราวกันตกไม่ได้เป็นเพียงองค์ประกอบตกแต่งอาคารเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะในอาคารสูง บันได หรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการตกหล่น การเลือกราวกันตกที่เหมาะสมจึงช่วยลดอุบัติเหตุและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานได้ นอกจากนี้ วัสดุและดีไซน์ของราวกันตกยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ของอาคารให้ดูทันสมัย คลาสสิก หรือโมเดิร์นตามสไตล์ที่ต้องการ

ราวกันตกมีกี่แบบ?

ราวกันตกมีให้เลือกใช้หลายประเภท ซึ่งก็มีความแตกต่างกันในเรื่องของดีไซน์ ความสวยงาม ความแข็ง ความทนทาน รวมถึงวัสดุแต่ละประเภทก็เหมาะกับสภาพอากาศที่แตกต่างกันด้วย Wasuwat รวบรวมราวกันตกประเภทต่าง ๆ มาฝากในบทความนี้

1.ราวกันตกกระจก (Glass frameless Railing)

ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ทันสมัย เหมาะกับอาคารที่ต้องการความโมเดิร์นและวิวแบบเปิดโล่ง รับแสงธรรมชาติ มักใช้ในคอนโด โรงแรม หรือบ้านสไตล์มินิมอลที่ต้องการให้พื้นที่ดูกว้างสบาย

2.ราวกันตกไม้ (Wood Railing)

ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นธรรมชาติ นิยมใช้ในบ้านพักตากอากาศ หรืออาคารที่ต้องการความคลาสสิก มีความทนทาน แต่ต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษเพื่อป้องกันปลวกและความชื้น

3.ราวกันตกเหล็ก (Metal Railing)

เหล็กเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน ดีไซน์ได้หลากหลาย ทั้งแบบคลาสสิกและโมเดิร์น เหมาะกับบ้านและอาคารพาณิชย์ที่ต้องการความปลอดภัยสูง

4.ราวกันตกตะแกรงเหล็กฉีก (Expanded Metal Railing)

เป็นราวกันตกที่มีดีไซน์แบบโปร่ง แต่ยังแข็งแรงมาก ทนต่อสภาพอากาศ นิยมใช้ในอาคารสำนักงานและบ้านสไตล์อินดัสเทรียล เน้นโชว์ความดิบเท่

 5.ราวกันตกอลูมิเนียม (Aluminium Railing)

น้ำหนักเบา ไม่เป็นสนิม ทนต่อการกัดกร่อน ใช้งานได้ยาวนาน เหมาะกับอาคารที่ต้องการความทันสมัยและดูแลรักษาง่าย นอกจากนี้ยังสามารถเลือกดัดทรงหรือขึ้นรูปได้หลากหลายรูปแบบ

6.ราวกันตกสแตนเลส (Stainless Railing)

สแตนเลสเป็นวัสดุที่มีความสวย เงางาม ทนทานต่อการกัดกร่อน ดูแลรักษาง่าย ไม่เป็นสนิม เหมาะกับบ้านและอาคารที่ต้องการความหรูหรา ซึ่งสแตนเลสยังสามารถขึ้นรูปและเลือกสีสันให้เหมาะสมกับงานก่อสร้างอย่างลงตัว

7.ราวกันตกลายกราฟิก (Graphic Railing)

ออกแบบให้มีลวดลายพิเศษ เพิ่มความโดดเด่นและสไตล์เฉพาะตัว เหมาะกับอาคารที่ต้องการเอกลักษณ์และความสร้างสรรค์ เพื่อให้งานดีไซน์มีความแปลกใหม่ ไม่จำเจ

8.ราวกันตกคอนกรีต (Concrete Railing)

หากต้องการความแข็งแรง มั่นคง ราวกันตกคอนกรีตเป็นตัวเลือกที่ดี สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร มักใช้ในอาคารที่ต้องการความปลอดภัยสูงและดูแลรักษาง่าย

9.ราวกันตกผสมหลากหลายวัสดุ (Mixed Material Railing)

ปัจจุบันการผสมผสานวัสดุได้รับความนิยมมากขึ้น เพื่อความหลากหลายของงานดีไซน์ ความแข็งแรง และการดูแลรักษาในระยะยาว เช่น ไม้กับเหล็ก หรือกระจกกับอลูมิเนียม อีกทั้งยังช่วยให้งานดีไซน์ออกมาโดดเด่นและเหมาะกับสไตล์อาคารมากขึ้น

 

 

มาตรฐานความสูงที่ปลอดภัยของ ราวกันตก

ราวกันตกเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากการตกหล่น โดยเฉพาะในอาคารสูงและพื้นที่ที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงวัย การออกแบบราวกันตกให้มีความสูงที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ยังควรเลือกวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน และดีไซน์มาเพื่อการใช้งานที่ปลอดภัย

มาตรฐานความสูงของราวกันตกที่ปลอดภัย

ราวกันตกต้องมีความสูงไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตร ตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย

สำหรับอาคารที่สูงตั้งแต่ 2-5 ชั้น ควรมีความสูงระหว่าง 1.05 - 1.10 เมตร

อาคารที่สูงมากกว่า 6 ชั้นขึ้นไป ควรมีราวกันตกสูง 120 - 150 เซนติเมตร

 

ข้อควรระวังเกี่ยวกับราวกันตก

️ ต้องไม่มีช่องว่างที่เด็กสามารถมุดผ่านหรือปีนป่ายได้ง่าย

️ หลีกเลี่ยงการใช้วัสดุที่สามารถเป็นจุดปีนป่าย เช่น ซี่ราวกันตกที่มีระยะห่างมากเกินไป

️ ออกแบบให้มีความแข็งแรง รองรับแรงกระแทกได้ดี

 

ต้องการผลิตชิ้นงานสแตนเลสหรือโลหะ วางใจ Wasuwat

Wasuwat เป็นบริษัทที่คร่ำหวอดในแวดวงสแตนเลสและโลหะมานานกว่า 10 ปี ซึ่งเรามีความชำนาญตั้งแต่การออกแบบชิ้นงาน การผลิตตามมาตรฐาน การขึ้นรูปให้เหมาะสมกับงานดีไซน์ของคุณ ไปจนถึงการติดตั้งถึงหน้างานให้มีความสมบูรณ์แบบ โดยเรามีทีมออกแบบ ทีมวิจัย และทีมช่างที่มีประสบการณ์คอยดูแลทุก ๆ โครงการอย่างใส่ใจ

นอกจากนี้ เรายังได้รับความไว้วางใจจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ไปจนถึงร้านกาแฟ ที่มีชื่อเสียงอีกมากมาย ในการผลิตชิ้นงานสแตนเลสตกแต่งภายในและโลหะเพื่อตกแต่งอาคารให้ออกมาสวยงาม เหนือระดับ และทนทาน สำหรับเจ้าของโครงการหรือผู้รับเหมาที่ต้องการวัสดุคุณภาพสูงและบริการแบบมืออาชีพ สามารถติดต่อเราได้ทุกวัน โทรศัพท์: 094-4584933 และ email: bd@wasuwat.com หรือ project@wasuwat.com 

 
ตัวอย่างผลงานของ Wasuwat

 

Wasuwat 1 Wasuwat 1 Wasuwat 1 Wasuwat 1 Wasuwat 1 Wasuwat 1
 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอลูมิเนียมกับสแตนเลส 

ราวกันตกมีกี่แบบ อะไรบ้าง?

ราวกันตกมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัสดุและการออกแบบ ซึ่งแต่ละแบบมีความสวยงามและฟังก์ชันที่แตกต่างกันไป ได้แก่

  ราวกันตกกระจก (Glass Frameless Railing) – ให้ความโปร่งโล่ง ทันสมัย
  ราวกันตกไม้ (Wood Railing) – ให้ความอบอุ่น คลาสสิก
  ราวกันตกเหล็ก (Metal Railing) – แข็งแรง ทนทาน
  ราวกันตกตะแกรงเหล็กฉีก (Expanded Metal Railing) – ลายสวย แข็งแรง
  ราวกันตกอลูมิเนียม (Aluminium Railing) – น้ำหนักเบา ทนทาน
  ราวกันตกสแตนเลส (Stainless Railing) – ทนสนิม ดูแลรักษาง่าย
  ราวกันตกลายกราฟิก (Graphic Railing) – เพิ่มลวดลายและดีไซน์พิเศษ
  ราวกันตกคอนกรีต (Concrete Railing) – แข็งแรง ถาวร
  ราวกันตกผสมวัสดุ (Mixed Material Railing) – ผสมวัสดุต่างๆ เพื่อความโดดเด่น 
 

ราวกันตกควรสูงเท่าไหร่?

ความสูงของราวกันตกเป็นสิ่งสำคัญเพื่อความปลอดภัย โดยมาตรฐานทั่วไปกำหนดให้ราวกันตกมีความสูงไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตร เพื่อป้องกันการตกจากที่สูง สำหรับอาคารสูง 2-5 ชั้น ควรมีความสูง 1.05 - 1.10 เมตร และหากเป็นอาคารที่สูง มากกว่า 6 ชั้นขึ้นไป ควรมีความสูง 120 - 150 เซนติเมตร

 

ราวกันตกบันไดควรมีความสูงเท่าไหร่?

ราวกันตกบันไดเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขึ้น-ลงบันได โดยมาตรฐานทั่วไปกำหนดให้มีความสูงระหว่าง 80 - 90 เซนติเมตร จากพื้นขั้นบันได ซึ่งเป็นระดับที่สามารถจับได้สะดวกและช่วยป้องกันการพลัดตก สำหรับอาคารที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุ อาจเพิ่มราวจับเสริมที่ระดับ 60-75 เซนติเมตร เพื่อให้จับได้ง่ายขึ้น

 

ราคาราวกันตกกระจกเท่าไหร่?

ราคาราวกันตกแบบกระจกขึ้นอยู่กับประเภทของกระจก วัสดุโครงสร้าง และรูปแบบการติดตั้ง โดยทั่วไป ราคาจะเริ่มต้นที่ 2,500 - 6,000 บาทต่อตารางเมตร สำหรับกระจกเทมเปอร์หรือกระจกลามิเนต หากเป็นกระจกนิรภัยแบบไร้กรอบหรือใช้โครงสแตนเลส ราคาจะสูงขึ้นอยู่ที่ 5,000 - 10,000 บาทต่อตารางเมตร นอกจากนี้ยังมีค่าติดตั้งและอุปกรณ์เสริมอีกด้วย

 



 
 
 

Powered by MakeWebEasy.com
This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our Privacy Policy  and  Cookies Policy